
29 พ.ค. บ้านที่คุณเลือกเอง
ดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิคคนดังเผยไอเดีย anyroomhouseTM บ้านสำเร็จรูป นำเสนอในรูปแบบผลิตภัณฑ์ สร้างง่าย มีดีไซน์ ประหยัดงบ
เมื่อสถาปนิกออกแบบ’บ้านตากอากาศ’ที่นำเสนอในรูปแบบของ ‘ผลิตภัณฑ์’ ปัจจุบันผู้คนหันมาให้ความสนใจ งานออกแบบ มากขึ้น ไม่ใช่เพราะเพิ่งสะดุดตากับความสวยงาม แต่เพราะคนส่วนใหญ่เริ่มเข้าใจความจริงที่ว่า นอกจากความสวยงาม ‘การออกแบบที่ดี’ ยังรวมถึง ประโยชน์ใช้สอยที่ดี แต่หากอยากครอบครองเป็นเจ้าของบ้านสวยๆ ที่ผ่านการออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังสักหลัง อาจหมายถึงราคาที่สูงกว่าบ้านจัดสรรทั่วไปหลายเท่าตัวและไม่มีให้เลือกซื้อหาเหมือนสินค้างานออกแบบอื่นๆ
“ผมเจอปัญหาตลอดเวลาว่าลูกค้าอยากจะได้บ้านราคาไม่แพงนัก 3 ล้านบาท 5 ล้านบาทแต่ว่าอยากได้ดีไซน์ผม การออกแบบบ้าน 3 ล้านบาท 5 ล้านบาท แล้วจ้างดวงฤทธิ์ บุนนาค ออกแบบ มันเป็นเรื่องสาหัสอยู่ เลยคิดว่าจะแก้ปัญหาให้มิตรรักแฟนเพลงอย่างไรดี มีคนอยากจะอยู่บ้านคุณดวงฤทธิ์ออกแบบมากเลย คุณดวงฤทธิ์ก็ไม่สามารถจะไปออกแบบบ้านให้ราคาถูกได้ เลยมานั่งคิดโจทย์ตรงนี้ว่าทำอย่างไร เพื่อนๆ ผมที่อยากได้บ้านต่างจังหวัดราคางบประมาณควบคุมได้และเป็นดีไซน์ผมๆ เลยนั่งพยายามพัฒนาไอเดียของบ้านขึ้นมา” คุณ ดวงฤทธิ์ บุนนาคสถาปนิก เล่าให้ฟังถึงที่มาของ บ้านเอนี่รูม (anyroomhouseTM) บ้านสำเร็จรูประบบ prefabrication ผลงานออกแบบบ้านตากอากาศล่าสุดที่นำเสนอในรูปแบบของ ‘ผลิตภัณฑ์’
“ตั้งใจให้เป็นบ้านตากอากาศที่ง่ายๆ ขนาดไม่เกิน 100 ตารางเมตร ประมาณ 90 ตารางเมตร คุณสามารถสร้างได้เลยโดยไม่ต้องขออนุญาตและเราออกแบบให้ภาพรวมของตัวสถาปัตยกรรมค่อนข้างเรียบเพื่อให้การสร้างบ้านลงบนพื้นที่ที่ต่างๆ กันไม่ประสบปัญหามากและความรู้สึกปลอดภัยจากสภาพแวดล้อมที่ไม่พึงประสงค์และมีลักษณะโปร่งลมพัดผ่านเย็นสบาย”
บ้านเอนี่รูมมีทั้งหมด 4 แบบ ซึ่งแต่ละแบบมีโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมเหมือนกันแต่มีการจัดสรรพื้นที่ภายในเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่าง
1.Amsterdam ประกอบด้วย 1 ห้องนอนขนาด 25 ตารางเมตร 1 ห้องน้ำ และ 1 ห้องอาหารบวกห้องนั่งเล่นในตัว
“แบบแรกเป็นแบบที่ห้องนั่งเล่น หรือกินข้าวอยู่ด้วยกัน มีห้องน้ำอยู่ตรงกลางและมีห้องนอนอยู่ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการจะซื้อบ้านขนาดเล็กและมีทั้งห้องนอน ห้องน้ำ ห้องกินข้าว ห้องนั่งเล่นเบ็ดเสร็จอยู่ในพื้นที่เดียวกันเลย”
2.Barcelona ประกอบด้วย 2 ห้องนอน ขนาดห้องละ 25 ตารางเมตร พร้อม 2 ห้องน้ำ สำหรับเป็นบ้านพักตากอากาศในแถบภูเขาเพื่อเป็นที่นอนพักผ่อน “บางคนอาจจะบอกไม่พอหรอกอยากจะได้สองห้องนอนทำได้ไหมก็จะเป็นแบบที่สองนี้ บ้านไม่มีห้องนั่งเล่น แต่จะเป็นห้องนอนสองห้อง และห้องน้ำแยกกัน อาจจะมีบ้านเก่าอยู่แล้วและอยากจะต่อห้องให้ลูกอยู่อันนี้ก็เป็นลักษณะที่ทำได้”
3.Copenhagen ไม่มีห้องนอนแต่มีห้องอาหารขนาดใหญ่พื้นที่ใช้สอยขนาด 36.5 ตารางเมตร พร้อมห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่และห้องน้ำ สำหรับการแวะพักผ่อนแบบไปเช้าเย็นกลับ หรือไว้เรียงต่อกับบ้านแบบอื่นๆ
“แบบที่สามจะเป็นห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ ห้องครัว และห้องกินข้าว ในกรณีที่อาจจะมีบ้านซึ่งมีห้องนอนอยู่แล้วอยากจะซื้อเฉพาะห้องนั่งเล่นต่อเติมออกไป”
4.Stockholm มีห้องนอนแบบ Master Bedroom 1 ห้อง ขนาด 32 ตารางเมตร พร้อมห้องน้ำใหญ่ 1 ห้อง และห้องแต่งตัว “เป็นห้องนอนใหญ่สำหรับคนที่อยากจะได้ห้องนอนริมทะเล หรืออยู่ในป่าจริงๆ และไม่ต้องการอย่างอื่นอยากได้ที่นอนแต่อยากได้ความหรูหราของพื้นที่มีความโปร่งและห้องนอนที่กว้างกว่าและห้องน้ำอาจจะมีอ่างน้ำมีห้องฝักบัวมีห้องน้ำเป็นสัดส่วน อันนี้เราออกแบบเหมือนโรงแรมหรูๆ เลย”
แบบที่แตกต่างกัน 4 แบบ ไม่ใช่เพียงการเพิ่มทางเลือก แต่ยังเป็นการตอบสนองความต้องการที่แตกต่างและเป็นการออกแบบที่มองไกลถึงอนาคต
“เราใช้คำขวัญว่า ‘One Size Fits All’ คือเป็นบ้านแบบเดียวแต่สามารถใช้กับคนได้หลายๆ ประเภท หรือแม้กระทั่งการต่อกันไม่มีที่สิ้นสุดเป็นหมู่บ้าน เป็นรีสอร์ทเลยก็ได้ เราก็ใช้คำว่า ‘Enless Posibility’ ความเป็นไปได้ที่ไม่มีขีดจำกัด อยู่ที่ว่าคุณจะเอามาต่อกันอย่างไรต่อกันมากแค่ไหน บ้านแบบเดียวกันเอาไปปลูก 8 ที่ ก็อาจจะไม่เหมือนกันเลยก็ได้.. ข้อดีของบ้านนี้คือใน 4 แบบ จริงๆ แล้วสถาปัตยกรรมเหมือนกันหมดและถูกออกแบบให้เป็นสัดส่วนของกันและกัน หมายความว่าถ้าซื้อบ้านแบบหนึ่งไปและอยากซื้ออีกแบบหนึ่งมาต่อก็สามารถต่อกันได้ ตอนแรกเราอาจจะซื้อบ้านที่เป็นห้องนอนใหญ่ไปมีห้องน้ำ วันหนึ่งเก็บเงินได้อยากจะต่อเติมให้มีห้องนั่งเล่นห้องกินข้าวเพิ่มเติมก็มาซื้ออีกอันหนึ่งแล้วต่อกันได้ ตัวต่อเราจะออกแบบไว้เป็นทางเชื่อมต่ออยู่แล้วการต่อตรงนี้จะมีระยะประมาณ 6 เมตร” คุณดวงฤทธิ์ บอก
“เรื่องของการจัดสรรพื้นที่ที่แตกต่างกัน ตรงนี้ผมเชื่อว่าเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้บ้านลักษณะแบบนี้ซึ่งหลายคนคิดว่าน่าจะมีแต่ทำแล้วล้มเหลวทุกทีเพราะว่าลูกค้าไทยมีบุคลิกคือชอบเติม เป็นลักษณะของคนไทยซึ่งถ้าเราปฏิเสธตรงนั้นบอกว่าห้ามเติมห้ามเปลี่ยนก็จะล้มเหลว ของเราๆ เปลี่ยนมาให้เลย 4 แบบ เราทำมาให้เลือกแล้วทำให้การขอเติมขอเปลี่ยนน้อยลงเป็นหัวใจสำคัญของการออกแบบที่ทำให้ประสบความสำเร็จ ในอนาคตอาจจะมีแบบมากกว่านี้แต่ในเบื้องต้นเราคิดว่า 4 แบบนี้น่าจะครอบคลุมได้เกือบหมดแล้ว ไปต่อได้อีกประมาณ 20-30 แบบ คิดว่าน่าจะพอเพียง”
“สำหรับผมมันคล้ายกัน แต่เนื่องจากสถาปัตยกรรมแบบของผม อย่างเช่น ไม่มีหลังคา บางทีบอกว่าเป็นบ้านที่อยู่ประจำคนก็อาจจะตะขิดตะขวงหน่อยบางคนก็ยังชอบบ้านแบบมีหลังคาอยู่ พอบอกว่าเป็นบ้านตากอากาศก็รู้สึกว่ามันผ่อนคลายขึ้นนิดหนึ่ง จะให้ดวงฤทธิ์ไปทำแบบมีหลังคาก็ทำไม่เป็น (หัวเราะ)”
นอกจากโครงสร้างซึ่งเป็นเหล็ก วัสดุหลักอีกชนิดที่คุณดวงฤทธิ์ เลือกใช้คือ ‘ไม้’ “ตัวบ้านเราใช้ไม้สนจากฟินแลนด์เป็นไม้ที่มาจากป่าปลูกและตัดเมื่ออายุ 60 ปี เพราะฉะนั้นอายุของมันทำให้ไม่มีการยืดหดและเป็นไม้ที่คุณภาพสูง เวลามันอายุมากขึ้นคือเวลามันเก่าสีมันจะสวยขึ้นจะออกเทาๆ ขณะเดียวกันก็เป็นการรักษาสมดุลธรรมชาติคือไม่ได้ตัดไม้มาจากธรรมชาติเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญมาก.. บ้าน prefabrication หลายคนอาจจะนึกว่าเป็นบ้านราคาถูก จริงๆ ไม่ใช่ตัวไม้สนมันทำให้เกิดคุณค่าในแง่ของผลิตภัณฑ์มากขึ้นและคนก็รู้สึกดีขึ้นเพราะมันเป็นไม้สน เราเลือกใช้วัสดุตัวนี้เพราะว่าเรื่องแรกคือคุณภาพของมัน สองคือเรื่องของการสร้างสมดุลให้กับธรรมชาติ ไม้เป็นวัสดุที่หลังๆ ผมใช้เยอะเพราะว่าเป็นวัสดุที่ทำให้ลดมูลค่าพลังงานในการผลิตเป็นการช่วยกันประหยัดพลังงาน และมันเป็นวัสดุที่ปลูกขึ้นมาใหม่ได้ทดแทนได้ตลอด”
บ้านเอนี่รูมสามารถสร้างเสร็จในเวลา 4 เดือน แต่คุณดวงฤทธิ์ บอกว่า ยังไม่ทันใจลูกค้าบางราย
เพื่อตอบสนองความต้องการอันไม่มีที่สิ้นสุดของผู้ที่เข้าใจในคุณค่าของงานออกแบบ
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ